รากเทียม
รากเทียม คือ อะไร
รากเทียม คือ รากไทเทเนียม ที่มาทดแทน ฟันธรรมชาติ ที่สูญเสียไป โดย ทำหน้าที่เป็นเสาหลัก ในการรับแรงบดเคี้ยวจาก ครอบฟัน หรือ ฟันปลอม
ข้อดีของการทำรากเทียม คืออะไร
รากเทียมมีข้อได้เปรียบหลายอย่าง เมื่อเทียบกับครอบฟัน สะพานฟัน หรือ ฟันปลอมทั่วไป ดังนี้
- รากเทียมให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด
- การบดเคี้ยวด้วยรากเทียมมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด
- รากเทียมมีแข็งแรงที่จะรับแรงบดเคี้ยวในชีวิตประจำวันทั่วไปได้ดี
- รากเทียมช่วยทำให้ฟันปลอมถอดได้แน่น และ ขยับน้อยลง
- รากเทียมไม่ต้องกรอฟันซี่ข้างเคียง
- รากเทียมสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับสะพานฟัน ที่มักจะเกิดฟันผุและ โรคเหงือกตามมา จากการทำความสะอาดได้ไม่ดี
ขั้นตอนในการทำรากเทียม เป็นอย่างไร
ในกรณีปกติทั่วไปที่ไม่ต้องทำการปลูกกระดูก
- ปรึกษา และวางแผนการรักษาร่วมกับการถ่ายเอ๊กซเรย์ 3มิติ Dental CT Scan
- ทันตแพทย์จะทำการปลูกรากเทียมลงไปในกระดูก
- ทันตแพทย์นัดมาดูแผลและตัดไหมที่ 1-2 อาทิตย์ แล้วรอเวลาให้รากเทียมเชื่อมกับกระดูกคนไข้ เป็นเวลา 2-4 เดือน
- จากนั้นทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปาก หรือ สแกนตำแหน่งรากเทียม และส่งไปทำครอบฟันที่แลปทันตกรรม
- ทันตแพทย์จะทำการปรับแต่ง และใส่ครอบฟันบนรากเทียมภายใน 1-7 วัน หลังการพิมพ์ปาก
- ทันตแพทย์นัดคนไข้มาตรวจเช็คครอบฟันเพื่อปรับแต่งการสบฟัน หลังใช้งานไปประมาณ 1 อาทิตย์
ทำไมถึงต้องทำการปลูกกระดูกในการทำรากเทียม?
รากเทียมต้องการกระดูกรองรับโดยรอบทั้งหมดเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งในบางกรณี หลังการถอนฟัน กระดูกจะเกิดการยุบตัว ทำให้กระดูกบางไม่เพียงพอต่อการรับรากเทียม เทียบกับการสร้างบ้าน หากดินทรุดก็จำเป็นต้องถมดินให้แน่นก่อนปักเสาเข็ม การปลูกกระดูกให้มีความหนาเพียงพอ จึงมีความจำเป็นในการปลูกรากเทียมเช่นกัน